Bee's Private Corner

Wednesday, July 13, 2005

Motivating Yourself...

เคยรู้สึกท้อแท้รึเปล่าค่ะ ตัวบีเองก้อมีรู้สึกบ้างค่ะ แต่โชคดีหน่อยที่บีมีครอบครัวที่ดี คอยให้กำลังใจ และสนับสนุนบีตลอดเวลา นอกจากนี้แล้ว บียังพบว่าหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่างที่บีได้อ่าน หรือประสบกับตัวเองก้อมีส่วนในการเพิ่มกำลังใจ หรือว่าทำให้เราคิดว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เรากำลังเจออยู่นั้น ก้อไม่ได้เลวร้ายสักเท่าไหร่ วันนี้บีก้อเลยอยากเอามาเล่าสู่กันฟัง เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่ได้อ่านไม่มากก้อน้อยค่ะ

จริง ๆ แล้วความเคร่งเครียดและความวิตกกังวลเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วมักจะทำให้เรารู้สึกอารมณ์ไม่ดี ทำให้ท้อถอย ท้อแท้ หรือไม่อยากทำอะไรเลยชั่วขณะ ทางกองสุขภาพจิตเคยเขียนแนะนำไว้ว่า วิธีง่าย ๆ ในการขจัดหรือลดความเครียดที่เกิดขึ้นซึ่งได้ผลดีถ้าหากลองนำไปใช้ดูมีดังต่อไปนี้ค่ะ

1. พูดออกมา คือพูดคุยกับคนที่เราเชื่อใจได้ ซึ่งจะทำให้ความตึงเครียดลดลง บีก้อมีครอบครัว หรือว่าเพื่อนสนิทนี่แหละค่ะ ที่จะพูดคุย ปรึกษาได้ จะปรึกษาใครก้อขึ้นอยู่กับเรื่องที่ไม่สบายใจด้วย ถ้าเป็นเรื่องงานก้อมักคุยกับเพื่อนที่เข้าใจลักษณะงานของบีมากกว่า เพราะเค้าจะเข้าใจสถานการณ์และเห็นอะไรได้ลึกซึ้งกว่า เป็นต้น

2. หนีไปชั่วขณะ เช่น ไปดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ เล่นกีฬา จะทำให้อารมณ์และสติปัญญาดีขึ้น พร้อมที่จะกลับมาเผชิญหน้ากับความยุ่งยากใจต่อไปได้เป็นอย่างดี เวลามีอะไรไม่สบายใจ สิ่งแรกที่บีนึกถึงคือบ้านค่ะ อยากรีบกลับบ้านมาอยู่กับคุณแม่และพี่น้อง รู้สึกว่ามันอบอุ่น และเป็นเกราะป้องกันตัวเราได้อย่างดี นอกจากนี้ก้ออาจจะหมกตัวอยู่ในห้อง นั่งฟังเพลง ปล่อยใจล่องลอย ก้อช่วยได้ค่ะ

3. หาทางออกเมื่อโกรธ ควรเก็บความรู้สึกโกรธไว้ก่อนสักระยะหนึ่ง แล้วไปทำกิจกรรมอย่างอื่น หลายครั้งที่เวลาเราโกรธ มักพูดอะไรออกมา หรือทำอะไรลงไปแล้วมาเสียใจภายหลังซึ่งจริง ๆ มันไม่ดีเลย บีเองก้อเคยเป็นค่ะ แต่โชคดีที่ไปปากไม่ดีกะคนที่บ้าน ซึ่งเค้าก้อพร้อมจะให้อภัยเราเสมอ คิดดูสิคะว่าถ้าเป็นคนอื่น เค้าอาจจะเลิกคบกับเรา หรือว่าไม่สนิทใจกับเราแบบที่ผ่านมาก้อได้

4. ให้โอกาส มีการประนีประนอม รับฟังคนอื่นเพราะบางครั้งเราอาจเป็นฝ่ายผิดก็ได้ ถ้าเป็นฝ่ายถูกก้อหาหลักฐานมาอ้างอิง หันหน้าเข้าหากัน

5. ทำประโยชน์ให้ผู้อื่น ถ้ารู้สึกกลุ้มใจท้อแท้ตลอดเวลา ลองทำงานให้คนอื่นแล้วจะรู้สึกว่าตนเองมีค่าขึ้นที่ได้ทำประโยชน์ต่อคนอื่น บางทีบีก้อไปทำบุญโลงศพค่ะ หรือไม่ก้อทำบุญทำทานซึ่งทำให้สุขใจได้พอสมควรค่ะ

6. ทำเพียงอย่างเดียว คือทำสิ่งที่สำคัญและด่วนที่สุดก่อน บางครั้ง การทำอะไรหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ทำให้คุณรู้สึกเครียด และไม่รู้ว่าจะทำสิ่งไหนก่อน จากประสบการณ์ในการทำงาน บีก้อมักจะเจอแต่งานด่วน ๆ เยอะแยะไปหมด งานที่ปรึกษามักจะทำให้เราเครียด เพราะว่ากำหนดการนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดโดยเฉพาะสิ่งที่สัญญากับลูกค้า ดังนั้น การทำแผนงาน การติดตามงานอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เราทราบถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้า และแก้ไขได้ดีกว่า รวมทั้งสามารถขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้หากจำเป็นด้วย

7. หลีกเลี่ยงความเป็นคนเก่ง จริง ๆ แล้วบีก้อไม่รู้ว่าตัวเองเก่งมั้ย แต่มักจะมีคนชมอยู่บ่อย ๆ ว่าเก่ง อิ ๆ โดยเฉพาะจากคนที่แช็ทด้วย เค้ามักบอกว่าบีฉลาด แล้วก้อ witty สามารถโต้ตอบทันควัน โดยใช้ความคิดด้วย ส่วนตัวบีเองไม่ชอบคนที่คุยโอ้อวดว่าตัวเองเก่งหรือว่าเหนือคนอื่น บีว่าคนเหล่านี้น่ะ แท้จริงแล้วต้องการปลอบใจหรือบอกกับตัวเค้าเองเพื่อให้ตัวเองมั่นใจว่าตัวเองเก่ง อาจจะแบบว่าไม่มีคนอื่นคอยชมมั้งคะ พวกนี้บีว่ามีปัญหาหรือปมด้อยทางด้านจิตใจ ขอโทษด้วยนะคะ หากว่าบีปากจัดไปหน่อย

8. เข้าใจที่จะติชม จริง ๆ แล้ว การชมไม่ได้ต้องใช้พลังงานหรือความพยายามมากเลย แต่กลับมีผลมากมายต่อจิตใจของผู้รับคำชม คนเราทำอะไรดี ก้อหวังจะให้คน recognized ทำอะไรผิดก้อหวังจะให้คนให้อภัย การติคนอื่นก้อควรทำด้วยเหตุผล มีการยกตัวอย่างว่าทำไมถึงได้ติเค้า แล้วก้อสอนด้วยว่าควรจะทำอย่างไรถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ไม่ใช่ติลูกเดียว

9. หยุดการชิงดีชิงเด่น ส่วนตัวบีเองนั้น บีไม่ชอบไปแข่งกะใคร คติในการทำงาน หรือว่าทำอะไรก้อแล้วแต่ก้อคือ ทำให้ดีที่สุด จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง ผลที่ได้เท่าที่สังเกตก้อคือ นาย หรือว่าคนอื่น ๆ มักจะมองเห็นเองว่าบีเป็นอย่างไร ถึงแม้บางครั้ง จะมีคนที่เหมือนมาแก่งแย่งชิงดี เอาหน้า แต่เค้าก้อจะพ่ายไปเองในที่สุด เพราะถ้าเรามีความรู้ ความสามารถแล้ว มันจะแสดงออกมาเองโดยทำให้คนอื่นรับทราบว่าจริง ๆ แล้ว งานมันผลิตมาจากไหน และใครกันแน่ที่ทำงานจริง ๆ หรือว่าบีโชคดีก้อไม่รู้นะคะ ที่คนอื่นมองเห็นความดี ความตั้งใจ ความสามารถของบี เพราะเท่าที่เคยได้ยินได้ฟังมา คนบางคน ก้อมักถูกเอาหน้า แต่อย่างไรก้อตาม บีว่าการชิงดีชิงเด่น มันก้อไม่ได้ดีต่อสภาพจิตใจเราสักเท่าไหร่นะคะ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า

10. ทำตัวให้พร้อมเสมอเพื่อรับสถานการณ์ อันนี้อาจจะมาจากประสบการณ์ด้วย คือว่าถ้าเราเจออะไรมามาก เราก้อจะรู้สึกพร้อมมากขึ้นเมื่อเจอสถานการณ์ต่าง ๆ ยิ่งเราเจอปัญหามาก เราก้อจะแกร่งขึ้น และจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นได้ดีขึ้น เดี๋ยวนี้พอเจอปัญหาอะไร บีก้อไม่ค่อยกังวลมาก หรือเครียดมากเท่าเมื่อก่อน แน่นอน ความเครียดและความกังวลมันก้อคงยังมีบ้าง แต่รู้สึกว่าจัดการกับมันได้ดีขึ้นค่ะ เพราะงั้น คนที่รู้สึกไม่ดีเพราะว่าเจอปัญหาบ่อย ๆ ขอให้คิดในทางกลับกันนะคะว่ามันจะทำให้คุณแกร่งมากขึ้น และจัดการกับปัญหาได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ

11. จัดตารางเพื่อพักผ่อน หากสุขภาพไม่ดีแล้ว อะไร ๆ ก้อแย่ไปหมดค่ะ ควรมีเวลาส่วนตัวเพื่อพักผ่อน หรือว่าทำอะไรที่เราชอบบ้างนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การฟังเพลง การพูดคุยกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท การออกกำลังกายเบา ๆ การนอนหลับ การทำงานอดิเรก ทำ ๆ เข้าไปเถอะค่ะ ให้มันเพลิน ๆ บีเคยอ่านหนังสือซึ่งบอกว่า เวลาจิตใจมีสมาธิ ซึ่งอาจเกิดจากการทำงานอดิเรกหรือทำอะไรเพลิน ๆ แล้ว โอกาสที่จะทำให้เราคิดแก้ปัญหา หรือตรึกตรองเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ จะมีมากขึ้น เค้ายกตัวอย่างว่า แค่นั่งทอผ้าไปเรื่อย ๆ จิตก้อเกิดสมาธิ ทำให้ตรึกตรองอะไรต่าง ๆ ได้ดีขึ้น คิดหาทางออกในการแก้ปัญหาได้ดีขึ้น คนเราไม่ควรครุ่นคิดกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งนาน หรือว่ามากเกินไปนะคะ จะทำให้เราเป็นโรคซึมเศร้าได้

นอกจากนี้แล้ว ประสบการณ์ส่วนตัวของบีในการ motivate ตัวเอง ที่ได้จากการอ่านบ้าง การพูดคุย หรือแช็ทกะคนอื่นบ้าง ก้ออย่างเช่น เค้าบอกว่าอย่าไปวัดความสำเร็จที่ความร่ำรวย แต่ที่ความสุขและสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ ให้เรากล้าที่จะเดินและไม่กลัวความล้มเหลว เพราะว่าคนที่ไม่เคยล้มเหลวเลย คือคนที่ไม่เคยกล้าเสี่ยงที่จะทำอะไรเลย ซึ่งทำให้คน ๆ นั้น ไม่เคยได้เรียนรู้อะไรเลย และอาจจะไม่เคยมีโอกาสได้ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ และสิ่งดี ๆ ให้กับชีวิตเลยก้อได้

เมื่อคุณท้อแท้หรือล้มลง ให้เอาหลังของคุณล้มแนบกับพื้น เพราะว่าถ้าคุณยังสามารถมองเห็นฟ้าแล้ว คุณก้อยังสามารถลุกขึ้นได้อีกครั้งนึง อันนี้บีก้อไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวอะไรกันกับถ้าล้มแบบคว่ำหน้าลงมันจะลุกไม่ขึ้นหรืออย่างไร อิ ๆ

อ้อ ให้รางวัลกับชีวิตตัวเองบ้างนะคะ อยากไปสปา หรือไปนวดน้ำมันก้อไปบ้าง มันก้อผ่อนคลายและมีความสุขดีนะคะ จะขัดผิว นวดตัว นวดหน้าบ้าง ก้อทำ ๆ ไปเถอะค่ะ ทำงานมาเยอะแล้ว ก้อ spoil ตัวเองบ้าง เคยมีคนพูดถึงหนังสือ Toxic at work ซึ่งพูดถึงว่าการทำงานของคนเราในปัจจุบัน เจอความเครียดเยอะ ทำให้เกิดพิษต่อร่างกายได้ ทำงานหาเงินได้ ถ้าเก็บไว้อย่างเดียวโดยไม่ใช้ หากเราเป็นอะไรไปก้อจะมาเสียดายว่าไม่ได้ให้รางวัลกับชีวิตบ้าง บีก้อไม่ได้หมายความว่าจะให้ใช้เงินลูกเดียว คือมันก้อคงต้องมีการวางแผนบ้าง คือมีทั้งเก็บออม มีทั้งส่วนที่จะใช้เพื่อตัวเองบ้าง ไปท่องเที่ยวหาความรู้และความสุขบ้าง สำหรับบี ก้อมีทั้งเก็บ ทั้งให้คุณแม่ ทั้งทำประกันชีวิตและสุขภาพ ทั้งท่องเที่ยวไปทั่ว ทั้งซื้ออาหารเสริมสุขภาพ ทั้งมีไปสปาบ้าง หรือซื้อผลิตภัณฑ์มาขัดผิวบ้าง บำรุงผม บำรุงผิวบ้าง มันก้อรู้สึกดีเหมือนกัน คือบีว่ามันก้อให้คุณค่าต่อจิตใจนะคะ ให้ตังค์คุณแม่ เห็นคุณแม่ยิ้มก้อชื่นใจแล้ว ท่านเลี้ยงเรามาเยอะ มีโอกาสก้อตอบแทนท่านบ้าง เวลาท่านไปเที่ยวต่างประเทศ ก้อออกค่าทัวร์ให้บ้าง หรือว่าให้ค่าทานขนมท่านบ้าง ท่านก้อปลื้มแย่แล้ว ผลที่ได้ก้อคือความสุขใจของเราเช่นกัน ที่เห็นคนที่เรารักมากมีความสุข อีกอย่างคือ บีมักจะพาครอบครัวและหลาน ๆ ไปทานข้าว หรือว่าเวลาเราไปเที่ยวกัน ก้อจะออกค่ารถ ค่าที่พักให้บ้าง อันนี้ก้อเป็นความสุขใจอย่างนึงเหมือนกัน

ที่พูด ๆ มา คืออยากให้เราลองนั่งคิดดูซิว่า อะไรบ้างที่ทำให้เรามีความสุข การทำให้คนอื่นมีความสุขก้อมีส่วนทำให้เรามีสุขได้เช่นกัน เงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่จะว่าเงินไม่สำคัญเลยก้อไม่ใช่ คนเราต้องยึดหลักสมดุลย์ หาเงินแล้วก้อใช้เงินบ้าง ทำอะไรเพลิน ๆ ที่ให้คุณค่าต่อจิตใจ ท้ายที่สุดแล้ว การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้น จุดดีคือ เราสามารถคิด พูด วางแผน สื่อสาร และทำอะไรได้เยอะแยะ ดังนั้น เราควรที่จะใช้ข้อดีเหล่านี้ มาทำให้เรามีความสุขในการดำเนินชีวิตในโลกนี้ด้วย ดีมั้ยล่ะคะ ???

2 Comments:

  • At Sunday, October 22, 2006 6:54:00 AM, Blogger yuraidaz said…

    เมื่อพระเจ้าระเหยกลายเป็นอากาศ ความรักก็จะเผยตัวตนที่แท้จริงคอยฉุดกระชากเธอลงสู่นรก http://yuraidaz.blogspot.com คือความเจ็บอันนิรันดร์

     
  • At Saturday, January 19, 2008 6:54:00 AM, Anonymous Anonymous said…

    ความรักที่แท้จริง เหมือนอากาศบริสุทธิ์ ที่ไม่มีวันหมด คุณสามารถรับมันเข้ามาตามใจหมาย และแจกจ่ายออกไปอย่างไม่อั้น สิ่งนั้นคือความสุข แต่ตราดใดที่อากาศนั้นไม่บริสุทธิ์ ความสุขก็อาจจะแปรผัน
    รักแท้ คืออิสระภาพ และไร้ความหวัง

     

Post a Comment

<< Home